RSI คืออะไร?

รู้จักเครื่องมือวัดแรงซื้อ-ขายยอดนิยมสำหรับนักเทรด

RSI (Relative Strength Index) คือหนึ่งในอินดิเคเตอร์ (Indicator) ทางเทคนิคที่ได้รับความนิยมสูงมากในหมู่นักลงทุนและนักเทรดทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ที่เทรดในตลาดหุ้น ทองคำ และคริปโต เพราะช่วยวัด "แรงซื้อ" และ "แรงขาย" ของสินทรัพย์ได้อย่างแม่นยำ

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก RSI อย่างละเอียด พร้อมวิธีการอ่านค่า และประโยชน์ที่สามารถนำไปใช้ในกลยุทธ์การเทรดได้จริง

RSI คืออะไร?

RSI (Relative Strength Index) คือ อินดิเคเตอร์วิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้วัด "ความแข็งแกร่งของราคา" โดยดูว่าในช่วงเวลาหนึ่งๆ ราคามีแรงซื้อหรือแรงขายมากกว่ากัน

ค่า RSI จะแสดงผลเป็นตัวเลขอยู่ในช่วงระหว่าง 0 ถึง 100

• ถ้า RSI สูงกว่า 70 = สินทรัพย์นั้น "ซื้อมากเกินไป" (Overbought)

• ถ้า RSI ต่ำกว่า 30 = สินทรัพย์นั้น "ขายมากเกินไป" (Oversold)

  
  

ซึ่งช่วยบอกได้ว่าราคามีแนวโน้มจะกลับตัวหรือไม่

วิธีการคำนวณ RSI (แบบเข้าใจง่าย)

โดยปกติ RSI จะถูกคำนวณจาก ค่าเฉลี่ยของราคาที่เพิ่มขึ้นและลดลงในช่วง 14 แท่งเทียนล่าสุด (14 วัน / 14 ชั่วโมง / 14 นาที) แล้วนำมาเปรียบเทียบกันเพื่อดูว่าแรงซื้อหรือแรงขายมากกว่ากัน

สูตร RSI คร่าวๆ:

RSI = 100 - [100 / (1 + RS)]

RS = ค่าเฉลี่ยกำไร / ค่าเฉลี่ยขาดทุน

ไม่ต้องห่วง ถ้าคุณใช้ TradingView, MT4 หรือ MT5 โปรแกรมจะคำนวณให้อัตโนมัติ

วิธีใช้ RSI ในการเทรด

✅ 1. ดูสัญญาณกลับตัว

• RSI > 70 → ระวัง “ราคาจะกลับลง” เพราะตลาด Overbought

• RSI < 30 → อาจมี “การดีดกลับ” เพราะตลาด Oversold

✅ 2. ใช้คู่กับแนวรับ-แนวต้าน

• ถ้า RSI อยู่ในเขต Overbought และราคากำลังชนแนวต้าน → สัญญาณ "น่าขาย"

• ถ้า RSI อยู่ในเขต Oversold และราคากำลังทดสอบแนวรับ → สัญญาณ "น่าซื้อ"

✅ 3. สังเกต Divergence

• Bullish Divergence: ราคา "ทำ Low ใหม่" แต่ RSI ไม่ทำ → อาจกลับตัวขึ้น

• Bearish Divergence: ราคา "ทำ High ใหม่" แต่ RSI ไม่ทำ → อาจกลับตัวลง

ข้อดีของ RSI

✅ เข้าใจง่าย เหมาะกับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ

✅ ใช้ร่วมกับกลยุทธ์อื่นได้ดี เช่น Moving Average, Trendline

✅ ช่วยกรองสัญญาณเทรด ลดการเข้าออเดอร์ผิดจังหวะ

ข้อควรระวัง

RSI ไม่ควรใช้เพียงอย่างเดียว ควรดูบริบทของกราฟด้วย ในช่วงตลาดมีเทรนด์แรง RSI อาจอยู่ในเขต Overbought / Oversold นานผิดปกติ

สรุป

RSI คือหนึ่งในอินดิเคเตอร์ที่ช่วยวิเคราะห์แรงซื้อและแรงขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณเป็นนักเทรดที่ต้องการ "จังหวะเข้าออเดอร์ที่แม่นยำ" และต้องการ "หลีกเลี่ยงการเทรดผิดทาง" การเรียนรู้การใช้ RSI อย่างถูกต้องจะช่วยยกระดับกลยุทธ์ของคุณได้อย่างแน่นอน